งู(SNAKE)
งานบริการป้องกัน และ ขับไล่งู
- วงจรชีวิตของ งู
งู เป็นสัตว์เลื้อยคลานอันดับหนึ่ง ไม่มีขา ไม่มีเปลือกตา มีเกล็ดปกคลุมผิวหนังทั่วทั้งลำตัว ลักษณะลำตัวยาวซึ่งโดยขนาดของความยาวนั้น จะขึ้นอยู่กับชนิดของงู ปราดเปรียวและว่องไวในการเคลื่อนที่ มีลิ้นสองแฉกเพื่อใช้สำหรับรับความรู้สึกทางกลิ่น จัดอยู่ในชั้น Reptilia, ตระกูล Squamata, ตระกูลย่อย Serpentes โดยทั่วไปแล้วงูจะกลัวและไม่กัด นอกเสียจากถูกรบกวนหรือบุกรุก จะเลื้อยหลบหนีเมื่อมีสิ่งใดเข้ามาใกล้บริเวณที่อยู่ ออกล่าเหยื่อเมื่อรู้สึกหิว โดยกินสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กเป็นอาหาร ยกเว้นงูบางชนิดที่กินงูด้วยกันเอง เช่น งูจงอาง สามารถมองเห็นได้ดีในที่มืดและในเวลากลางคืน .
- การผสมพันธุ์
เมื่องูต้องการผสมพันธุ์จะเกี้ยวพาราสีต่อเพศตรงข้าม เพื่อให้เพศตรงข้ามยอมรับและผสมพันธุ์ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะเจาะจงของงูแต่ละชนิด
-การออกไข่
ส่วนใหญ่ออกลูกเป็นไข่ ซึ่งมีเปลือกเหนียวหุ้ม และวางไข่อยู่ในสภาพแวดล้อมโดยไม่ต้องดูแล จนกระทั่งฟักออกมาเป็นตัว
-การฟักตัว
เมื่อถึงกำหนดเวลางูจะฟักตัวออกมาจากไข่
- ลักษณะภายนอกของงู
-ลำตัว
งูมีลำตัวหลอดยาว ไม่มีแขน ไม่มีขา ส่วนมากหัวจะใหญ่ คอเล็ก หางเรียวเล็กลง
-เกล็ด
เกล็ดที่ปกคลุมผิวหนังของงูมีไว้เพื่อปกคลุมร่างกายและเพื่อป้องกันอันตราย จากภายนอก เกล็ดของงูเป็นลักษณะหนึ่งที่ช่วยในการจำแนกกลุ่มของงู
-ลิ้น
งูมีปลายลิ้นสองแฉก สำหรับแสวงหาทิศทางของกลิ่น และสัมผัสอณหภูมิ งูรับรูกลิ่นต่างๆ ได้จากอนุภาคของสิ่งต่างๆ ที่มาสัใผัสกับลิ้น ซึ่งลิ้นก็จะส่งอนุภาคเหล่านั้นไปต่อมรับกลื่นที่อยู่ในปากอีกที
-ตา
งูไม่มีเปลือกตาที่กระพริบได้เช่น คนที่ปิดลูกตามีเพียงเกล็ดใสครอบอยู่
-ปาก
กล้ามเนื้อในปากสามารถยืด-ขยายได้ ทำให้สามารถอ้าปากได้กว้างกว่าขนาดหัวของมันได้หลายเท่าตัว
-หาง
หางของงูมีลักษณะที่ลดหลั่นขนาดลงมาจากลำตัว มีลักษณะเล็กกลมยาว ปลายแหลม
- รูปแบบในการป้องกัน และ ขับไล่งู
1. การใช้สารฉีดพ่น โรยเป็นแนวเพื่อขับไล่งู เพื่อป้องกันไม่ให้งูเข้ามาในพื้นที่ ที่ได้มีการดำเนินการฉีดพ่น และ โรยสารขับไล่เอาไว้
2.การปรับปรุงสถานที่ สุขาภิบาล และ สิ่งแวดล้อม เพื่อไม่ให้งูสามารถเลื่อยเข้ามาในอาคารได้ตามแนวกำแพง แนวโพงหญ้า ใต้ถุนอาคาร รวมถึงสิ่งแวดล้อมอื่นทั้งหมดที่ ทำให้ประชากรของหนู หรือ สัตว์ชนิดอื่นที่เป็นอาหารของหนูเข้ามาอาศัย และ หลบซ่อนได้
>